ภาพกิจกรรม/โครงการเด่น
นางนุชนาต จันทรมงคล รองนายกเทศมนตรีเมืองเบตง ประธานเปิดกิจกรรมพัฒนาและอนุรักษ์แม่น้ำ คูคลองแห่งชาติ

วันที่ 18 กันยายน 2568 เวลา 09.00 น. ณ บริเวณริมคลองสะพานเอียง นางนุชนาต จันทรมงคล รองนายกเทศมนตรีเมืองเบตง ประธานเปิดกิจกรรมพัฒนาและอนุรักษ์แม่น้ำ คูคลองแห่งชาติ กล่าวว่า ด้วยวันที่ 20 กันยายนของทุกปี คณะรัฐมนตรีมีมติให้เป็นวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คูคลองแห่งชาติ เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาสภาพแวดล้อมแม่น้ำลำคลองและแหล่งน้ำอื่นๆที่เปรียบเสมือนสายเลือดหลักของประเทศให้กลับมาใสสะอาด ปราศจากขยะและมลพิษ โดยในปี 2547 นี้เป็นการครบรอบ 10 ปีแห่งการเสด็จประพาสคลองแสนแสบของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเป็นวันครบรอบ 10 ปี แห่งการรณรงค์รักษาแหล่งน้ำของประเทศโดยมีคลองแสนแสบเป็นตัวอย่างแห่งการพลิกฟื้นสภาพคลองเน่าเหม็นเต็มไปด้วยผักตบชวาให้กลายเป็นลำคลองแห่งความภาคภูมิใจ และเพื่อเป็นการอนุรักษ์และฟื้นฟูแม่น้ำ ลำคลอง โดยเฉพาะคลองเบตง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำหล่อเลี้ยงวิถีชีวิตของคนเบตงมาตั้งแต่อดีตกาล แม้ปัจจุบันก็ยังใช้ประโยชน์ในการอุปโภคบริโภคจากแหล่งน้ำแห่งนี้ ได้แก่ เป็นแหล่งน้ำดิบใช้สำหรับผลิตน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค สาขาเบตง เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและการละเล่นทางน้ำ ตลอดจนใช้รองรับน้ำฝนซึ่งมักตกชุกในพื้นที่เบตง เป็นการป้องกันน้ำท่วม เป็นต้นนางศุภัศร์มา ยี่สุ่นศรี ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้บริหารเทศบาลเมืองเบตง พนักงานเทศบาล ร่วมกับ เยาวชน ประชาชน อาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก เทศบาลเมืองเบตง ร่วมจัดกิจกรรมเนื่องในวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คูคลองแห่งชาติ ในระหว่างวันที่ 18 – 20 กันยายน 2568 โดย Kick off วันนี้ บริเวณริมคลองสะพานเอียง ได้มีการจัดกิจกรรมพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติ (คลองเบตง) ทั้ง 2 ฝั่ง จรดเขตรอยต่อท้องถิ่นใกล้เคียง , กิจกรรมแสดงภาพวาดคลองเบตง การวาดภาพคลองเบตงในอดีต – ปัจจุบัน – อนาคต , กิจกรรมเก็นตัวอย่างน้ำ ตรวจวิเคราะห์ด้วยชุดทดสอบอย่างง่าย , กิจกรรม Day Care สัญจร จากชุมชนบูเก็ตตักโกร ถึงชุมชนสวนผัก เส้นสายลายเส้น ฝึกการใช้กล้ามเนื้อมือ ผ่อนคลายอารมณ์ และกิจกรรมจำหน่ายผักสวนครัว ผักพื้นบ้านปลอดสารพิษ ผลผลิตจากการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้จากระบบ RDF เพื่อส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดกิจกรรมส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก การผลิต การตลาด และการจำหน่าย ก่อให้เกิดแหล่งสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน และแหล่งกระจายสินค้า และบริการของชุมชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสอดรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป